แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ IT Tips แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ IT Tips แสดงบทความทั้งหมด

เทคนิค ประหยัดแบตฯ มือถือ และแท็บเล็ต Android

          หลายคนคงบ่นเรื่องการใช้งานของแบเตอรี่ แต่วันนี้มีเทคนิคมีการทำให้สามารถใช้แบตเตอรี่มาฝากกันครับ โดยเทคนิคดีทำได้ไม่ยาก ลองอ่านกันเลยครับ

         แอพฯสตรีมมิ่งตัวสวาปามแบตเตอรี่ แอพพลิเคชันประเภทที่ต้องมีการสตรีม หรือดาวน์โหลดข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตอย่างต่อเนื่อง อย่างเช่น แอพฯที่สตรีมเพลง หรือวิดีโอจากเน็ต ซึ่งทำให้มือถือ Android ของคุณจะต้องเชื่อมต่อเน็ตไร้สาย (Wi-Fi, หรือ 3G) ตลอดเวลา เพื่อโหลดข้อมูลทั้ง audio และ video ในกรณีที่มีแบตเตอรี่เหลืออยู่ไม่มาก และจำเป็นต้องใช้งาน แนะนำอย่างรัน app เหล่านี้ คอนเฟิร์มว่า กินไฟแบตฯค่อนข้างหนักทุกตัว

           การทำงานของมือถือส่วนไหนกินแบตฯเมากน้อยเท่าไร...รู้ได้ โดยผู้ใช้สามารถตรวจสอบได้จากคุณสมบัติการทำงานที่มาพร้อมกับ Android ซึ่งมันสามารถบอกคุณได้อย่างค่อนข้างแม่นยำว่า ชิ้นส่วนการทำงานหลักๆ ของมือถือแต่ละส่วนใช้พลังานแบตเท่าไร? ตลอดจนแอพฯที่ใช้งานขณะนั้น คุณสมารถเข้าไปดูรายละเอียดดังกล่าวได้ที่ Settings/About phone/Battery/Battery use รายละเอียดของรายงานทีได้จะทำให้คุณสามารถพบสาเหตุที่ทำให้แบตฯมือถือของคุณหมดเร็ว เพื่อหาทางแก้ไข หรือเปลียนพฤติกรรมการใช้งาน ตลอดจน uninstall แอพฯต้นเหตุออกไป ส่วนใหญ่มักเกิดจากพฤติกรรมการเปิดใช้ฟังก์ชันทุกอย่าง ตลอดจนการรันแอพฯที่กินแบต แล้วไม่ได้ปิด เป็นต้น

ทคนิค ประหยัดแบตฯ มือถือ และแท็บเล็ต Android

           ยกเลิก Widget ที่ไม่ค่อยใช้งานออกจากหน้าโฮม หลายคนชื่นชอบการใส่ Widget บนหน้า homecreen ของมือถือ Android โดยหารู้ไหมว่า Widget เหล่านี้มักจะมีการดึงข้อมูลจากเว็บ ซึ่งนั่นหมายความว่า มือถือของคุณจะต้องมีการดึงข้อมูลเข้ามาแสดงผลในส่วนของการทำงานด้านหลัง (background) ตลอดเวลา คล้ายๆ กับแอพฯพวกสตรีมมิ่ง แต่อาจจะกินไฟน้อยกว่า แต่ถ้าเกิดคุณติด Widget บนหน้าโฮมไว้หลายๆ ตัวล่ะ แน่นอนว่า แบตเตอรี่ของคุณจะถูกผลาญโดย Widget เหล่านี้ ข้อแนะนำคือ Widget ใดไม่ค่อยได้ใช้ ก็เอาออกไปดีกว่า เปลืองแบตฯเปล่าๆ

             ใช้ Task Manager สอดส่องว่า แอพฯ หรือโพรเซสอะไรที่ทำงานแทบตลอดเวลา สำหรับทิปในตอนสุดท้ายนี้จะมุ่งเน้นที่การตามล่าหาต้นตอตัวสวาปามแบตฯ เพื่อกำจัด หรือจัดการมันซะ การติดตั้งแอพฯอย่างเช่น Advanced Task Cleaner น่าจะเป็นผู้ช่วยที่ดี เพราะนอกจากจะให้คุณได้ตรวจสอบ แล้วมันยังปิดบริการที่ไม่จำเป็นต้องใช้ในขณะนั้นออกไปได้อีกด้วย โดยเฉพาะบริการที่มีการโหลดซ้ำหลายครั้ง และทำงานอยู่ในแบคกราวด์ ซึ่งคุณสามารถตั้งให้ auto-kill แอพฯที่คุณไม่ได้ใช้บ่อย โดยอาจจะตั้งให้มันกำจัดแอพฯเหล่านี้หลังปิดหน้าจอ เป็นต้น นอกจากนี้คุณยังสามารถคอนฟิกให้ Task Manager แสดงการใช้ CPU ของแต่ละ app ซึ่งมันมีประโยชน์กว่าการรู้ว่า แอพฯตัวไหนใช่หน่วยความจำมากน้อยเท่าไรเสียอีก เนื่องจากมีผลกระทบต่อแบตเตอรี่โดยตรงมากกว่า

ทคนิค ประหยัดแบตฯ มือถือ และแท็บเล็ต Android

                ความร้อนทำให้แบตเตอรี่หมดเร็วขึ้น ไม่น่าเชื่อว่า สาเหตุหนึ่งที่ทำให้แบตเตอรี่หมดเร็ว นั่นก็คือ การวางมือถือแอนดรอยด์ของคุณไว้ภายใต้แสงอาทิตย์ทีมีความร้อน ดังนั้นทางที่ดีควรการเก็บมือถือไว้ในที่ไม่ร้อนจะดีที่สุด และไม่ควรให้มันทิ้งมันไว้กลางแจ้งแสงแดดจัด เพราะจะยิ่งเร่งให้แบตเตอรี่ของคุณหมดเร็วยิ่งขึ้น เรา

ขอบคุณเทคนิคดีๆจากเว็บ ARIP IT

แจ้งเตือนฮาร์ดดิสก์ใกล้ตาย

แจ้งเตือนฮาร์ดดิสก์ใกล้ตาย

             วันนี้มีเทคนิคดีๆในการสังเกตกันว่า ฮาร์ดิกส์ของเรามีอายุการใช้งานเป็นอย่างไรบ้าง โดยมีวิธีสังเกตกันง่ายๆดังนี้

         ผู้ใช้คนหนึ่งเล่าให้ฟังว่า ขณะที่เขาเปิดเครื่องคอมพ์ขึ้นทำงาน มีข้อความแจ้งว่า “Smart failure predicted on primary slave. Warning: immediately backup your data and replace your hard disk drive. A failure may be imminent” ซึ่งเขาไม่รู้ว่า ข้อความแจ้งเตือนนี้มาจากไหน ทำไมถึงขู่ว่า ให้รีบสำรองข้อมูล และเปลี่ยนฮาร์ดดิสก์เป็นการด่วน!!! แล้วข้อความแจ้งเตือนที่ว่านี้เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า ?

          สำหรับข้อความแจ้งเตือนที่ว่านี้เป็นเรื่องจริงครับ และเชื่อถือได้ โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง ฮาร์ดดิสก์ของคุณกำลังจะลาจากโลกนี้ไปแล้ว... การที่คุณได้รับข้อความแจ้งเตือนดังกล่าว นั่นแสดงว่า ฮาร์ดดิสก์ที่ใช้เป็นรุ่นที่มีเทคโนโลยี SMART (Self-Monitoring Analysis and Reporting Technology) ซึ่งมันจะคอยตรวจจับข้อบกพร่องของการทำงานของฮาร์ดดิสก์ หากพบความผิดปกติ ที่ร้ายแรงก็จะแจ้งให้ผู้ใช้ทราบล่วงหน้า ดังนั้น คุณควรสำรองข้อมูลของคุณเป็นการด่วน จากนั้นเปลี่ยนฮาร์ดดิสก์ตัวใหม่เสียแต่ตอนนี้ ไม่เช่นนั้น คุณอาจสูญเสียข้อมูลสำคัญๆ ไปพร้อมกับฮาร์ดดิสก์ตัวนี้ก็ได้ เราเตือนท่านแล้ว

ข้อมูลจาก http://www.arip.co.th/

เทคนิค ทำแผนที่ไปบ้านตัวเองง่ายๆ ผ่าน Google Maps

                    วิธีการสร้างแผนที่บ้านตัวเอง โดยสามารถทราบได้เลยว่าตำแหน่งบ้านของตนเองอยู่ตำแหน่งไหน สามารถชี้จุดได้อย่างชัดเจน เป็นประโยชน์มาๆๆในการนำทางไปสู้เป้าหมายอย่างง่ายได้ ไม่ว่าบ้านคุณจะอยู่ไหน สามารถหาเจอแค่คลิกเดียว

ขั้นตอนการสร้างแฟนที่บ้านของตนเอง มีดังนี้

1. ต้องบอกก่อนว่าบ้านเราอยู่แถวไหน

2. จากนั้นเข้าไปที่ http://maps.google.co.th/

3. กรอกชื่อถนน กับเขต และจังหวัดลงไปก่อนก็จะได้ข้อมูลดังภาพ

เทคนิค ทำแผนที่ไปบ้านตัวเองง่ายๆ ผ่าน Google Maps

4. จากนั้นให้คุณคลิ๊กเลือกไปที่ "เส้นทาง" ที่อยู่ในเมนูด้านขวามือ

เทคนิค ทำแผนที่ไปบ้านตัวเองง่ายๆ ผ่าน Google Maps

5. ที่นี้เมนูด้านซ้ายมือก็จะเปลี่ยนไปเป็นการแสดงเส้นทางจาก A ไป B โดย A คือ ต้นทาง และ B เป็นปลายทาง ซึ่งข้อมูลที่กรอกตอนแรกนั้นจะเป็นปลายทาง ส่วนข้อมูลใน A จะว่างไว้ แต่จะมาแสดงผลที่ในรูปแผนที่สีแดง แทน

เทคนิค ทำแผนที่ไปบ้านตัวเองง่ายๆ ผ่าน Google Maps

6. ต่อไปก็ต้องสร้างรูป B ซึ่งเป็นปลายทางในแผนที่ขึ้นมา โดยการก็อบปีข้อมูลที่อยู่ใน B ไปใส่ไว้ใน A

7. ทีนี้แผนที่จะเปลี่ยนสเกลให้ละเอียดขึ้น จะเห็นรูป B ที่เป็นสีเขียวขึ้นมาแทน ซึ่งจริงๆ แล้ว ณ ตอนนี้จะมีรูป B กับรูป A ทับซ้อนกันอยู่

เทคนิค ทำแผนที่ไปบ้านตัวเองง่ายๆ ผ่าน Google Maps

8. ให้คุณปรับสเกลที่อยู่ด้านซ้ายมือใหม่ ให้หยาบขึ้นโดยการเลื่อนกดเครื่องหมาย - จนได้ขนาดเดียวกับตอนแรกหรือขนาดที่คุณจะเห็นบ้านคุณอยู่ในแผนที่ได้

เทคนิค ทำแผนที่ไปบ้านตัวเองง่ายๆ ผ่าน Google Maps

9. เลื่อนจุด B ไปยังปลายทางซึ่งในที่นี้คือ ซอย 12 ซอยหมู่บ้านเจริญสุข ถนนรัชดาภิเษก 18 ห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร

เทคนิค ทำแผนที่ไปบ้านตัวเองง่ายๆ ผ่าน Google Maps

10. แล้วเลื่อนจุด A ไปอยู่ตรงปากซอยรัชดาภิเษกซอย 18

เทคนิค ทำแผนที่ไปบ้านตัวเองง่ายๆ ผ่าน Google Maps

 

              จากนั้นคุณกับแต่งภาพให้ดูเหมาะสมเสียหน่อย เท่านี้คุณก็ได้แผนที่จากถนนใหญ่เข้าไปถึงบ้านคุณแล้ว พร้อมในแผนที่ยังบอกเส้นทางและระยะทางอีกด้วย

               แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จสมบรูณ์ !!!!!!!!!

ขอบคุณเนื้อหาและรูปภพ จากเว็บ ARIP IT

เทคนิค ป้อนกันการขโมยพาสเวิร์ด บนบราวเซอร์

         ปัจจุบันมีกลวิธีมากมายทางเทคโนโลยีที่ พวกเราต้องระวังเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากระบบออนไลน์สมัยนี้มีกลวิธีมากมายในการแฮกร์ข้อมูลของเราไม่ว่าจะเป็นข้อมูลสำคัญต่างๆที่อยู่ในเครื่องคอมหรือในบราวเซอร์เราก็ตาม ควรทราบวิธีต่างเพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลที่ไม่หวังดีมาทำลายหรอขโมยข้อมูลของเรา วันนี้ผมจึงมีวิธีการดีๆมากฝากสำหรับทุกคน โดยข้อมูลนี้ได้มาจากเว็บเพื่อนบ้าน

         แนะนำว่า สำหรับผู้ใช้ที่ยืนกรานต้องการที่จะจัดเก็บ"พาสเวิร์ด"ไว้ในบราวเซอร์ เพื่อความปลอดภัยอย่างน้อยที่สุดควรใช้คุณสมบัติการทำงานที่เรียกว่า master password (รหัสผ่านหลัก) ซึ่งหมายถึงรหัสผ่านที่บราวเซอร์จัดเก็บไว้ทั้งหมดจะได้รับการเข้ารหัสอย่างปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ตัวเลือกดังกล่าวจะพบได้ในเฉพาะบราวเซอร์ Firefox และ Opera เท่านั้น สำหรับผู้ใช้ Firefox สามารถเข้าถึงคุณสมบัติการทำงานนี้ได้โดยคลิก Tools/Options/Security แล้วเลือกเช็คบ๊อกซ์ Use a master password ในขณะทีถ้าเป็น Opera จะมีการถามในครั้งแรกของการจัดเก็บพาสเวิร์ดโดยอัตโนมัติ

เทคนิค ป้อนกันการขโมยพาสเวิร์ด บนบราวเซอร์

 

           ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการป้องกันบัญชีผู้ใช้ของตนเองบนคอมพิวเตอร์ และอินเทอร์เน็ต พาสเวิร์ดยอดฮิตที่ยังคงเจาะได้อย่างง่ายดาย และพบเห็นกันอยู่ตราบเท่าทุกวันนี้ก็คือ "123456" และ "password" ที่น่ากลัวกว่านั้น พาสเวิร์ดง่ายๆ เหล่านี้ยังถูกใชกับทุกบริการที่ผู้ใช้เข้าถึงอีกด้วย เรียกได้ว่า แฮคเกอร์สามารถใช้พาสเวิร์ดเดียวในการเจาะข้อมูลของผู้ใช้ได้อย่างง่ายดาย ดังนั้น นอกจากจะไม่ควรเลือกใช้พาสเวิร์ดง่ายๆ (หรือสั้นเกินไป รวมถึงคำศัพท์ที่พบเห็นทั่วไป) แล้ว ผู้ใช้ยังไม่ควรใช้พาสเวิร์ดอันเดียวกับทุกๆ บริการอีกด้วย

ขอบคุณเนื้อหาและรูปภาพจาพเว็บไซต์ AIRP IT

เทคแก้ไขปัญหา การระบาดของไวรัสช๊อตคัต (Shortcut)

                    เป็นไวรัสตัวใหม่ที่กำลังแพร่กระจายผ่านทางแฮนดี้ไดร์ฟและระบบเครือข่าย ไวรัสถูกเขียนโดยคำสั่งสคริปต์ (Script) โดยจะสร้างไฟล์ช็อตคัต ลงในแฮนดี้ไดร์ฟพร้อมคัดลอกไฟล์ไวรัส .Trash-500 และ “h3ojKiH9lvFefFO0mG6HlXplg
LV3LYYJVHdZr3dtLhEN80DniEPQXQY2sziakx2TnS4SA044lSPkbMnv9Qm” ซึ่งจะมีผลทำให้เครื่องมีประสิทธิภาพในการทำงานลดลง เป็นแหล่งแพร่กระจายของไวรัสไปยังเครื่องอื่นๆ หรือเปิดใช้งานไม่ได้เลย

รูปแบบและลักษณะของไวรัส

หลักการทำงาน

เทคแก้ไขปัญหา การระบาดของไวรัสช๊อตคัต (Shortcut)

  1. เมื่อเสียบแฮนดี้ไดร์ฟที่มีไวรัสตัวนี้ ในแฮนดี้ไดร์ฟจะมีไฟล์ไวรัสซึ่งจะแฝงตัวอยู่และมีลักษณะเป็นโฟลเดอร์แบบช็อตคัต ตามรูปที่1 ซึ่งในช็อตคัตก็จะแฝงชุดคำสั่ง เพื่อเรียกการทำงานของไวรัส
  2. เมื่อดับเบิลคลิกที่โฟลเดอร์ต่างๆ ที่มีลักษณะเป็นช็อตคัตภายในแฮนดี้ไดร์ฟ ไวรัสตัวนี้ก็จะทำงานโดยการก๊อปปี้ตัวเองลงไปในเครื่อง
  3. ไวรัสจะทำการแพร่กระจายตัวเองไปในระบบเครือข่ายและดาวน์โหลดไวรัสมาเพิ่ม
  4. เมื่อมีการเสียบแฮนดี้ไดร์ฟที่เครื่องที่ติดไวรัส ไวรัสจะทำการแอบซ่อนโฟล์เดอร์ที่มีอยู่ในแฮนดีไดร์ฟและคัดลอกตัวเองลงในแฮนดี้ไดร์ฟพร้อมกับเปลี่ยนชื่อให้เหมือนกับโฟลเดอร์ที่เคยมีอยู่ เพื่อหลอกให้ผู้ใช้ดับเบิลคลิกและแพร่กระจายไวรัสต่อไปเรื่อยๆ

วิธีการป้องกันและกำจัดไวรัสช็อตคัต

  1. อุปกรณ์แฮนดี้ไดร์ฟ หรือสื่อบันทึกข้อมูลแบบพกพา จะมีโฟลเดอร์ที่เป็นช็อตคัตและโฟลเดอร์แบบปกติจะถูกแอบซ่อน หรือทำให้มองไม่เห็น
  2. หน้าแรก(Homepage) ของเว็บบราวเซอร์ จะถูกเปลี่ยนเป็นเว็บไซต์ที่มีตัวอักษรแปลกๆ ซึ่งตรวจสอบพบว่าจะมีการไปโหลดไวรัสมาเพิ่มเมื่อเข้าเว็บไซต์
  3. เครื่องมีอาการผิดปกติ เช่น เครื่องจะทำงานช้า เข้าเว็บไซต์ไม่ได้ มีเสียง “ติ๊ดๆ” ดังเป็นระยะ
  4. เข้าใช้งานวินโดวส์ไม่ได้ โดยมีลักษณะโหลดหน้าต่างก่อนเข้าวินโดวส์ซ้ำๆ

                   

                    ***หมายเหตุ***  เมื่อแฮนดี้ไดร์ฟ ติดไวรัสนี้แล้ว อย่า!!!!! คลิกเพื่อเปิดไฟล์หรือดับเบิ้ลคลิกไฟล์ที่กลายเป็น shortcut เด็ดขาด ไม่เช่นนั้น เครื่อง คอมพิวเตอร์เครื่องนั้นจะกลายเป็นแหล่งแพร่ไวรัสทันที

วิธีการใช้งานโปรแกรม SPKAutorunKiller (จัดการไวรัสในแฮนดี้ไดร์ฟเท่านั้น)

ดาวน์โหลดโปรแกรมได้จาก SPK Autokiller V2.4

  1. เมื่อดาวน์โหลดเสร็จสิ้น สามารถติดตั้งโปรแกรมได้ 2 วิธี
    1. คลิกเลือกที่ปุ่ม Run ----> Install เพื่อติดตั้งโปรแกรม
    2. ดับเบิลคลิกที่ไฟล์ SPKAutokillerV2.4.exe -----> Run -----> Install เพื่อติดตั้งโปรแกรม
    3. หากติดตั้งโปรแกรมแล้วเครื่องเตือนว่ามีerror บางอย่างและไม่มีสัญลักษณ์ SPK ขึ้นที่มุมล่างขวา 
           ให้ดาวน์โหลด โปรแกรม DOTNET ซึ่งเป็นตัวเสริมมาติดตั้งเพิ่มและดิบเบิลคลิกที่ไอค่อน Spk ที่หน้าจออีกครั้ง
  2. โปรแกรมจะถูกติดตั้งไว้ในเครื่อง และทำการลบไวรัสโดยอัตโนมัติเมื่อมีการเสียบแฮนดี้ไดร์ฟ หรือสื่อบันทึกข้อมูลแบบพกพา

เทคแก้ไขปัญหา การระบาดของไวรัสช๊อตคัต (Shortcut)

การแก้ไขกรณี แฮนดี้ไดร์ฟ โดนไวรัสแล้ว  ต้องการให้แสดงไฟล์ข้อมูลที่โดนซ่อนออกมา
โหลดโปรแกรม   Unhidden.rar  และ  Unhidden2.rar

วิธีใช้งานเบื้องต้น
1. แตกไฟล์ทั้ง 2 อัน
2.นำไฟล์ Unhidden v2.exe และ Unhidden.exe ใส่ไปที่ FlashDrive ที่ติด ไวรัส
****วิธีนำไฟล์ลง Flashdirve ให้ คลิกขวาเลือก Send To น่ะครับ
3.ดับเบิ้ลคลิกที่ไฟล์ในข้อ 2 ที่ละไฟล์

ไฟล์แรก Unhidden.exe

เทคแก้ไขปัญหา การระบาดของไวรัสช๊อตคัต (Shortcut)

ไฟล์ที่ 2 Unhidden2.exe

เทคแก้ไขปัญหา การระบาดของไวรัสช๊อตคัต (Shortcut)

4.ลบไฟล์ที่เป็น ShortCut ออกให้หมด

****กรณีคิดว่าเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นเป็นตัวแพร่เชื้อ

1.ให้ติดตั้งโปรแกรม SPK Autokiller
2.ให้ใช้โปรแกรม ComboFix จัดการไวรัสในเครื่อง

                          การใช้งาน ComboFix แนะนำให้ใช้งานบน SeftMode นะครับ เพื่อให้ได้ผลที่แน่นอนกว่า แต่ตัว ComboFix อาจจะมีปัญหากับการจัดการไวรัสที่แผงตัวเข้าสู่ระบบ Windows หรือไฟล์ System ดังนั้นก่อนการใช้งาน ComboFix แนะนำให้ Backup ข้อมูลที่สำคัญก่อนนะครับ เพราะถ้าไวรัสติดไฟล์ระบบแล้ว หากComboFIx ทำงาน ก็อาจจะลบไฟล์ระบบนั้นทิ้งทันที จึงทำให้ WIndows อาจจะล่มได้นะครับ  (เตือนแล้วนะ) ดังนั้น ComboFix ขอให้เป็นทางเลือกสุดท้ายนะครับ แต่ครูลองดูแล้ว เครื่องก้ไม่มีปัญหา แต่กับเครื่องอื่นไม่รับประกันครับ

Download Programs

1. SPK Autokiller V2.4
2. Unhidden.rar  และ  Unhidden2.rar
3. Sophos Windows Shortcut Exploit Protection Tool.rar
4.
ComboFix

ขอบคุณเนื้อหาจากเว็บ >>>>

-          http://xxxspk-soft.tk/index2.html

-          http://xxx.symantec.com

วิธีกู้ Windows XP แบบไม่ต้องลงใหม่

ถ้า วินโดวส์มีป้ญหาไม่สามารถบู๊ตขึ้นภาพ Windows XP คุณๆจะมีวิธีของตนเอง เช่น เอาไฟล์ที่ ghost ไว้มาใช้ แต่ก็ปัญหาคือ ไฟล์ที่ได้ไม่ใช่ข้อมูลปัจุบัน หรือ format ลงวินโดวส์ใหม่ชึ่งไม่ใช่เรื่องที่ดีเลยต้องลงโปรแกร มใหม่เป็นสิบตัว ยังต้องเสียเวลา Crack อีก ข้อมูลที่คุณทำไว้ก็หายหมด ผมมีวิธีการกู้แบบง่ายๆ ไปหาวิธีแบบยาก แล้วแต่เหตุการณ์ และสาเหตุ ซึ่งจะมีเทคนิคดังนี้
เทคนิคที่ 1 กู้แบบง่ายๆ
-สาเหตุ : ปกติคุณๆ มักชอบติดตั้งโปรแกรมใหม่ๆ เพิ่มเติม ผลปรากฎว่าเมื่อติดตั้งแล้วพอบู๊ตใหม่กลับบู๊ตไม่ขึ้ น สาเหตูอาจมาจากโปรแกรมที่ติดใหม่ ติดตั้งไฟล์ระบบตัวเก่าทับตัวใหม่ ทำให้วินโดวส์ไม่รู้จักไฟล์ระบบ เลยทำให้เกิดหน้าจอดำค้างไม่บู๊ตเข้าหน้าจอเดสก์ทอป 
-วิธีแก้ไข : อาจจะใช้วิธี System Restore ใน Safe Mode โดยกดปุ่ม F8 ค้างไว้ ขณะบู๊ตเครื่องใหม่ แล้วเลือกไปที่หัวข้อ Safet Mode กู้วันที่ย้อนหลังครั้งล่าสุดที่ไม่ได้ติดตั้งโปรแกร ม หรือจะให้สะดวกกว่านี้ก็ให้เลือกหัวข้อ "Last Know Good Configuration" ก็จะกู้ระบบครั้งล่าสุดให้ทันที ทำให้บู๊ตเข้าวินโดว์ส ได้ตามเดิม 
เทคนิคที่ 2 ก๊อปปี้ไฟล์ระบบ 3 ตัวทับไฟล์ระบบเดิม
-สาเหตุ :ถ้าวินโดวส์ไม่บู๊ตหรือรันหน้าต่าง Start up...Windows XP เลย อาจเป็นที่ไฟล์ Boot Sector ของไฟล์ระบบเสีย หรือมีปัญหาขัดแย้งกับไฟล์ ntldr หรือ ntdetect.com ทำให้บู๊ตไม่ขึ้นภาพ 
-วิธีแก้ไข :ให้ ก๊อปปี้ไฟล์ระบบจากเครื่องอื่นที่ลง Windows XP เหมือนกันหรือคุณจะก๊อปปี้ไฟล์ระบบที่เครื่องคุณเอาไ ว้ก่อนที่เครื่องจะมีปัญหาก็ได้ ด้วยใช้คำสั่ง xcopy ผ่านโหมด command line โดยทำตามขั้นตอนดังนี้ 
1. ก๊อปปี้ 3 ไฟล์ข้างนี้ โดยใส่แผ่นเปล่า (1.44MB)ลงในไดรว์ a: 
Click the image to open in full size.
เมื่อก๊อปปี้เสร็จเอาเก็บไว้ใช้ในขั้นตอนต่อไป 
2.บู๊ตเครื่องใหม่ แล้วกดปุ่ม F8 ค้างไว้ เพื่อไปหน้าจอ Safe Mode 
3.เอาแผ่นดิสก์ที่ทำไว้แล้วตามข้อ 1 ใส่ไปที่เครื่อง ออกไปที่ DOS Prompt แล้วพิมพ์คำสั่งก๊อปปี้ไฟล์ตามข้างล่างนี้ 
Click the image to open in full size.
4.กดปุ่ม enter ตามหลังคำสั่ง 
5. บู๊ตเครื่องใหม่อีกครั้ง ก็จะสามารถเข้าหน้าเดสก์ทอปของวินโดวส์ได้ตามเดิม 
เทคนิคที่ 3 ซ่อมวินโดวส์ ด้วยแผ่นบู๊ต Boot CD Rom
-สาเหตุ : ปัญหานี้ส่วนใหญ่ สืบเนื่องจากการติดตั้ง Patch file ตัวใหม่ๆ แล้วไม่สามารถรองรับไฟล์ระบบของวินโดวส์หรือก็อปปี๊ไ ฟล์ .dll, .vdx, .inf ผิดเวอร์ชั่น หรือเผลอลบไฟล์ระบบบางตัว ก็เป็นสาเหตุได้ ฉะนั้นหากแก้ด้วยวิธีที 1,2 ไม่หาย ก็ต้องใช้วิธีที่ 3 ซ่อมแซมไฟล์ระบบใหม่ แทนที่จะเสียเวลาติดตั้งใหม่ วิธีนี้ก็จะช่วยย่นเวลาให้น้อยลง 
-วิธีแก้ไข : เตรียมแผ่นบู๊ต CD Windows (แผ่นติดตั้งวินโดวส์) ใส่ใน CD-ROM แล้วบู๊ตเครื่องใหม่ จากนั้นทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ 
Click the image to open in full size.
1.เมื่อเข้าหน้าจอ Windows to Setup หน้าแรก ให้คุณกด Enter ผ่านขั้นตอนนี้ไป 
Click the image to open in full size.
2.จากนั้นก็จะเข้าหน้าจอ windows XP Lincesing Agreement หน้าที่สอง กดปุ่ม F8 เพื่อยอมรับการติดตั้งใหม่ 
Click the image to open in full size.
3.เมื่อ เข้าหน้าจอการติดตั้ง Windows XP Pro..Setup เลือกไดรฟ์ที่ติดตั้ง แล้วกดตัว R เพื่อซ่อมแซ่มไฟล์ที่สูญหายให้กลับคืนมาดังเดิม เมือเสร็จสิ้นการติดตั้งโปรแกรมต่างๆที่ติดตั้งไปก็ย ังคงใช้ได้เหมือนเดิมไม่ต้องติดตั้งใหม่ให้เสียเวลา 
ปล. สำหรับผู้ที่ใช้ Harddisk แบบ SATA ในตอนบู๊ตแผ่นติดตั้ง Windows ให้กด F6 เพื่อติดตั้งไดรว์เวอร์ SATA ก่อนเข้าขั้นตอนที่ 1 ด้วยนะครับ ไม่เช่นนั้นวินโดวส์จะมองไม่เห็น Harddisk

 

ที่มา: คุณ augie จาก Pantip

Share

Twitter Delicious Facebook Digg Stumbleupon Favorites More